โรคหลอดเลือดสมอง
สมอง ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุมการทำงานทุกส่วนในร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะต่างๆ การเคลื่อนไหวความคิด ความจำ
ประสาทรับรู้หรือพฤติกรรมการตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว
สุขภาพแข็งแรงของสมองจึงหมายถึงความราบรื่นของการดำเนินชีวิต
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีสมองที่แข็งแรง บางคนอาจเกิดความผิดปกติของสมองขึ้นได้
ซึ่งความผิดปกติของสมองที่สำคัญได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคทางประสาทวิทยาที่พบบ่อยที่สุดโรงหนึ่ง
ทั้งยังเป็นสาเหตุของความพิการ
อัมพฤกษ์
อัมพาต เป็นภาวะที่เราที่เรารู้จักกันดี แต่เพราะภาวะเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง
เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดที่ทำหน้าที่ส่งผ่านเลือดไปเลี้ยงสมอง แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
ดังนี้
หลอดเลือดสมองตีบ
หรืออุดตัน ภาวะสมองขาดเลือด หรือ STROKE อันเนื่องมาจากหลอดเลือดอุดตันนั้นเป็นสาเหตุใหญ่ของโรคหลอดเลือดสมอง
โดยร้อยละ 80 มีสาเหตุมาจากการอุดตันของลิ่มเลือด อันที่จริง
การสร้างลิ่มเลือดนั้นเป็นกลไกที่สำคัญในการห้ามเลือด
และซ่อมแซมหลอดเลือดที่เสียหาย
แต่ลิ่มเลือดที่ก่อตัวขึ้นในหลอดเลือดหรือที่หนึ่งที่ใดอย่างผิดที่ผิดทางนั้น
สร้างความเสียหายอย่างมากเมื่อลิ่มเลือดนั้นไปกีดขวางไม่ให้เลือดไหลเวียนผ่านหลอดเลือดได้อย่างสะดวก
ภาวะสมองขาดเลือดจากการอุดตันของลิ่มเลือด
เกิดขึ้นได้ 2 กรณี
กรณีแรก
คือเกิดลิ่มเลือดขึ้นในบริเวณอื่น ๆ
และไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง ส่วนอีกกรณีหนึ่ง คือมีลิ่มเลือดก่อตัวอยู่ในหลอดเลือดสมอง
เวลาผ่านไป ลิ่มเลือดจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดตันหลอดเลือดสมองในที่สุด
นอกจากลิ่มเลือดแล้ว
หลอดเลือดยังอาจตีบแคบได้เนื่องจากการสะสมตัวของไขมันในหลอดเลือดจนส่งผลให้หลอดเลือดตีบลง
มีความยืดหยุ่นน้อยลง และลดประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลงไป
หลอดเลือดสมองปริแตก
หรือฉีกขาด ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองลดลงอย่างฉันพลัน
ทั้งยังก่อให้เกิดเลือดออกในสมอง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองอย่างร้ายแรง
โรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากหลอดเลือดสมองแตกนั้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 20
ของโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดขึ้นทั้งหมด
สาเหตุที่นำไปสู่การปริแตกของหลอดเลือด
เป็นไปได้ 2 กรณี คือ
การที่หลอดเลือดมีความเปราะบาง
ณ บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ประกอบกับผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูง
ส่งผลให้บริเวณที่เปราะบางนั้นโป่งพอง และแตกออก ส่วนอีกกรณีหนึ่ง
ได้แก่การที่หลอดเลือดนั้นสูญเสียความยืดหยุ่นจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด
ทำให้หลอดเลือดปริแตกได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ป่วยมีภาวะความดันโลหิตสูง
อาการของโรค
เมื่อเลือดที่จะไปเลี้ยงสมองมีปริมาณลดลง
หรือถูกจำกัด สมองส่วนนั้นจะไม่สามารถทำงานได้ตามปกติซึ่งจะมีอาการแสดงต่าง ๆ
แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรง และตำแหน่งของสมองที่ขาดเลือด
อาการที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมองมีดังนี้
คือ
•
ชาบริเวณแขน ขา ใบหน้า
หรือบริเวณข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย
• สับสน มีปัญหาทางการสื่อสาร
พูดไม่เข้าใจ
• เห็นภาพซ้อน ตามัว (เพียงข้างเดียว)
• เวียนศีรษะ
หรือปวดศีรษะอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
• วิงเวียน ทรงตัวไม่อยู่
บางรายอาจเป็นลมหมดสติ
หากคุณ
หรือคนใกล้ชิดมีอาการดังที่กล่าวข้างต้น
ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นอาการของโรคหลอดเลือดสมอง
และรีบจัดการส่งตัวผู้ป่วยให้ถึงมือแพทย์โดยทันที เนื่องจากอาการของโรคหลอดเลือดสมองนั้นเป็นอาการร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
หรืออาจไม่ถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลให้ผู้ป่วยกลายเป็นผู้พิการ ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์
อัมพาต และต้องใช้เวลาฟื้นฟูสุขภาพต่อไปอีกนาน
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมีหลายประการประกอบกัน
และส่วนมากมาจากสุขภาพโดยรวมและรูปแบบการดำเนินชีวิต
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง มีดังนี้
ความดันโลหิตสูง
จัดว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของโรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นประมาณ 4 ถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่มีความดันปกติ (120/80
มิลลิเมตรปรอท)
โรคเบาหวาน
เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกประการหนึ่ง
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า
นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวานยังมีความเสี่ยงที่จะมีปัญหาเรื่องอื่น ๆ อาทิ
ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ ซึ่งเมื่อปัจจัยทั้งหมดนี้รวมกัน
ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองย่อมเพิ่มขึ้นไปด้วย
ไขมันในเลือดสูง
คนส่วนมากทราบกันดีว่า ภาวะไขมันในเลือดสูงนั้นเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของโรคหัวใจ
หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือ โรคหลอดเลือดหัวใจ
ซึ่งเกิดจากภาวะไขมันสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด กีดขวางการลำเลียงเลือด
ลักษณะเช่นนี้ เป็นความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองเช่นเดียวกัน
การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอีกประการหนึ่ง หากไม่คิดรวมปัจจัยเสี่ยงประการอื่น
ๆ การสูบบุหรี่เพียงอย่างเดียว เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองขึ้นถึงร้อยละ 3.5
และความเสี่ยงดังกล่าวนี้จะลดลงทันทีเมื่อเลิกสูบบุหรี่
สำหรับการดื่มสุราซึ่งส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
ก็เป็นความเสี่ยงประการหนึ่งของหลอดเลือดสมองอยู่แล้ว การดื่มสุราในปริมาณมาก ๆ
นั้นส่งผลให้เลือด “อ่อนตัว” เลือดออกง่าย แต่หยุดยาก
เมื่อเกิดการปริแตกของหลอดเลือดในสมอง ประกอบกับความดันโลหิตสูง
และภาวะเลือดออกง่ายจากการดื่มสุรา ความเสียหายต่อเนื้อเยื่อสมองย่อมต้องมากขึ้น2
นอกจากปัจจัยเสี่ยงหลัก
ๆ ที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่
การไม่ออกกำลังกาย ความอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ
ประวัติครอบครัว และปัจจัยเรื่องอายุ
โรคหลอดเลือดสมอง
ป้องกันได้
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลาย
ๆ ประการ อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในหลอดเลือด การดื่มสุรา
การสูบบุหรี่หรือการออกกำลังกายล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งสิ้น
งดสูบบุหรี่ ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนัก
ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารให้เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ย่อมจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคลงไปได้มาก